วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563

อย่าเสียสิทธิ ผู้ใดและอาชีพไหน มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท

ถ้าคุณเป็นคนที่อยากได้เงินเยียวยาคนละ 5,000 บาท มีเงื่อนไขที่สำคัญ ดังนี้

ต้องเป็นแรงงาน ลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ (ที่อยู่นอกระบบประกันสังคมมาตรา 33) และรวมไปถึงมาตรา 33 ที่ส่งเงินไม่ครบ 6 เดือน ส่วนแรงงานที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 39 – 40 และผู้ที่ไม่มีประกันสังคม ก็อยู่ในเกณฑ์ที่จะมาขอรับเงินช่วยเดือนละ 5,000 บาท ได้เช่นกัน
เป็นผู้ที่ไม่ได้รับการเยียวยาจากมาตรการอื่น เช่น ข้าราชการ เกษตรกร หรือ ผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 และส่งเกิน 6 เดือนขึ้นไป
ต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 อย่างแท้จริง สามารถพิสูจน์ได้ เช่น แรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศของผู้ว่ากทม. ให้ปิดดำเนินกิจการเป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ ยังมีผู้ขับแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ ที่สามารถลงทะเบียนได้ เนื่องจากได้รับผลกระทบ เป็นต้น

“เรื่องของอาชีพไม่ได้เป็นปัญหาว่าจะได้สิทธิ์หรือไม่ ทุกอาชีพมีสิทธิ์ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าต้องพิสูจน์ได้ว่าได้รับผลกระทบจากจากการการระบาดไวรัสโควิด-19 จริงๆ เช่น อาชีพอิสระขายอาหารตามสั่ง หากมีข้อมูลพิสูจน์ได้ว่าได้รับผลกระทบ ก็มีสิทธิลงทะเบียนขอรับเงินได้” นายลวรณกล่าว

นายลวรณ กล่าวว่า คลังคาดการณ์ว่าจะมีแรงงานอยู่ในข่ายได้รับสิทธิ์ 3 ล้านคน ไม่ได้กำหนดว่าให้สิทธิ์แค่ 3 ล้านคน หากมีคนมาลงทะเบียนเกินและตรวจสอบแล้วว่าเข้าเงื่อนไข ก็จะได้รับสิทธิ์ทั้งหมด เช่น อาจจะมีคนได้รับเงิน 3.5 ล้านคน หรือ 4 ล้านคน

ดังนั้นการลงทะเบียน ที่เริ่มวันที่ 28 มี.ค.2563 เวลา 18.00 น. ผู้ลงทะเบียนไม่จำเป็นต้องแย่งมาลงทะเบียน เพราะไม่ได้พิจารณาใครมาก่อนได้ก่อน ทุกคนมีสิทธิ์เท่ากันหากเข้าเงื่อนไข โดยผู้ลงทะเบียน หากให้รัฐบาลจ่ายเงินพร้อมเพย์ที่ผูกกับหมายเลขบัตรประชาชน หากตรวจสอบแล้วผ่านทุกเงื่อนไข ก็จะได้รับเงินภายใน 5 วันทำการ แต่หากให้ให้โอนเงินเข้าบัญชีจะได้รับเงินภายใน 7 วันทำการ

นายลวรณ กล่าวว่า ผู้ที่ลงทะเบียนในเดือนเม.ย.2563 หากผ่านการพิจารณา ก็จะได้รับเงินเดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน แต่หากมาลงในเดือน พ.ค.2563 ก็จะได้เงิน 2 เดือนเท่านั้น และหากมาลงในเดือน มิ.ย.2563 ก็จะได้รับเงินเดือนเดียว


วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2563

งานนี้มีเฮ "ฟ้าทะลายโจร" ไม่นานรู้ผล ต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้จริงหรือ

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังใกล้ตัวคนไทย จากตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จึงเป็นความหวัง และทำให้ชาวบ้านแห่กันไปซื้อ เป็นอย่างมาก หากทีมวิจัยของไทยพิสูจน์ได้ว่าสมุนไพร “ฟ้าทะลายโจร” สามารถต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ผล

ภายหลังกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม ได้ลงนามความร่วมมือในการศึกษาความเป็นไปได้ คาดรู้ผลใน 1 เดือน ข้อมูลการศึกษาวิจัยที่ผ่านมาพบว่า "สมุนไพรฟ้าทะลายโจร" มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ต้านการอักเสบ ช่วยลดไข้ และสามารถต้านเชื้อโคโรนาไวรัสที่ก่อโรคซาร์สได้ โดยเฉพาะไวรัสในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ และน่าจะมีศักยภาพช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโคโรนาเข้าเซลล์ และป้องกันการแบ่งตัวของโคโรนาไวรัสได้

หากการวิจัยแสดงว่าฟ้าทะลายโจร มีผลต้านไวรัสโควิด-19 จะใช้ร่วมกับยาต้านไวรัสแผนปัจจุบัน และศึกษาวิจัยทางคลินิกในผู้ป่วย แต่หากการทดสอบไม่มีผลต้านไวรัสโควิด-19 จะยังใช้ฟ้าทะลายโจร ในการเสริมภูมิคุ้มกัน เพื่อบรรเทาอาการของโรคหวัดและแก้ไข้ เจ็บคอ และอาจศึกษาวิจัยสมุนไพรอื่นต่อไป

วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2563

น่ากลัวมาก จะทำยังไงกันดี!! ติดเชื้อโควิด-19 กระจายค่อนประเทศ


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าว สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวัน
โดยล่าสุด พบว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 143 คน รวมยอดสะสม 1,388 คน คนไทย 1,172 ไม่ใช่ไทย 216 คน เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเสียชีวิตแล้ว 7 ราย โดยเคสผู้ป่วยที่เสียชีวิตใหม่ เป็นเคสที่เกี่ยวข้องกับสนามมวย
สำหรับยอดผู้ป่วยทั่วโลกอยู่ที่ 645,158 ราย เพิ่มขึ้น 6 หมื่นรายต่อวัน
รณรงค์ช่วยกันเก็บตัวอยู่ที่บ้านนะครับ ก่อนที่จะสายเกินไป